ผมจะแปลเฉพาะเรื่องที่พูดถึง การเปลี่ยนแปลงของโลกที่เกิดจาก การกลับขั้วกันของแกนแม่เหล็กโลกนะครับ ซึ่งถ้าใครได้เคยค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของ MPR (Magnetic Pole Reversal) หรือแกนแม่เหล็กโลกกลับหัวกลับหางมาก่อน ก็คงได้พบข้อมูลที่หลากหลาย และไม่เหมือนกัน บ้างก็ว่าอีกนาน เพราะมันค่อยๆกลับ, บ้างก็ว่าไม่เกิดขึ้น, บ้างก็ว่าเกิดไปแล้ว. อะครับ.. เรามาดูข้อมูลจากแหล่งนี้ที่เกี่ยวข้องกับการเลื่อนระดับทางมิติของโลกที่จะกลายเป็นมิติที่ห้า, ว่ามันจะเกี่ยวกับการกลับตัวของแกนแม่เหล็กโลกอย่างไรนะครับ.
โลกยุคทอง Nova Earth โลกมิติที่ห้า ระบบการเงินของโลกเปลี่ยน
หากคุณกำลังรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงภายในตัวคุณ, จิตวิญาณของคุณ, ธรรมชาติที่แวดล้อ่มตัวคุณ, การหยั่งรู้ถึงมิติที่สูงกว่าในขณะที่คุณหลับ, รู้สึกถึงพลังงานของโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง, รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนของจิตวิญญาณของคุณและของคนที่อยู่รอบตัวคุณ, รู้สึกว่าคุณกำลังได้รู้สึกถึงตัวตนที่เปี่ยมไปด้วยความรักของคุณ คุณกำลังตื่นขึ้นจากการหลงลืม, เพราะทุกคนคือจิตวิญญาณที่มาจากแหล่งพลังงานแห่งความรักในจักรวาล และคุณกำลังกลายเป็นเช่นนั้น ที่นี่ โลกใบนี้ เธอชื่อว่าไกอา ซึ่งกำลังคืนสภาพความเป็นมิติที่ห้า.
Sunday, January 24, 2016
บทความแปลเรื่อง แกนแม่เหล็กโลกสลับกลับขั้ว MPR (Magnetic Pole Reversal)
วันนี้ผมจะมาแปลข้อความจาก EM Ibrahim Hassan and Blue Solara ให้อ่านกันนะครับ เพราะมีข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของโลก ที่เกิดจากค่าความเข้มข้นรุนแรงที่มากขึ้นจากการสลับขั้วของแกนแม่เหล็กโลกนะครับ สามารถไปอ่านบทความทั้งหมดได้ที่นี่ http://theearthplan.blogspot.com/2016/01/recording-of-q-overview-of-2016-em.html
ผมจะแปลเฉพาะเรื่องที่พูดถึง การเปลี่ยนแปลงของโลกที่เกิดจาก การกลับขั้วกันของแกนแม่เหล็กโลกนะครับ ซึ่งถ้าใครได้เคยค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของ MPR (Magnetic Pole Reversal) หรือแกนแม่เหล็กโลกกลับหัวกลับหางมาก่อน ก็คงได้พบข้อมูลที่หลากหลาย และไม่เหมือนกัน บ้างก็ว่าอีกนาน เพราะมันค่อยๆกลับ, บ้างก็ว่าไม่เกิดขึ้น, บ้างก็ว่าเกิดไปแล้ว. อะครับ.. เรามาดูข้อมูลจากแหล่งนี้ที่เกี่ยวข้องกับการเลื่อนระดับทางมิติของโลกที่จะกลายเป็นมิติที่ห้า, ว่ามันจะเกี่ยวกับการกลับตัวของแกนแม่เหล็กโลกอย่างไรนะครับ.
เค้าบอกว่า ไม่ต้องกลัว อย่ากลัว, เพราะความเข้มข้นรุนแรงที่กำลังจะถูกปลดปล่อยจากกระบวนการที่ขั้วแม่เหล็กโลกสลับขั้วกันนี้, จะส่งผลต่อ DNA ของมนุษยชาติบนโลกนี้ด้วย. คือ จะทำให้มนุษย์สามารถปลดล๊อกข้อจำกัดที่เราใช้ DNA ของเราได้แค่ 2 สายนั้น, จะกลายเป็นเราจะสามารถประยุกค์ใช้ได้ 12 สาย DNA, ซึ่งก็คือทำให้มนุษย์สามารถปลดล๊อคขีดจำกัดจากรหัสพัมธุกรรม และดึงความสามารถพิเศษต่างๆที่ถูกซ่อนไว้ในตัวเองออกมาได้, ทำให้สามารถที่จะรับมือกับภัยธรรมชาติที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ไปพร้อมๆกัน. เค้าบอกว่าเดิมทีมนุษย์นั้นมีความสามารถทาง DNA ถึง 12 สายอยู่แล้ว แต่เมื่อนานมาแล้วถูกฝ่ายมืดนั้นทำการลดขีดความสามารถของมนุษย์ให้เหลือแค่ 2 สายดีเอ็นเอ เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมนั่นเอง.
และการที่มนุษย์นั้นเหลือเวลาที่จะใช้เตรียมตัวอีกแค่ปีกว่าๆ, ทำให้ในปี 2016 นี้ เกิดการคาดการณ์ว่า การเปิดเผยต่างๆจะต้องเกิดขึ้น, เพื่อให้เกิดการช่วยเหลือต่างๆ ทั้งจากมนุษย์ด้วยกัน และจากสหพันธ์แสงสว่างซึ่งก็คือมนุษย์ต่างดาวฝ่ายแสงสว่าง ที่จะมาช่วยเหลือทางวิวัฒนาการต่างๆ, เพื่อให้มนุษยชาติสามารถรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นจากผลของการสลับขั้วกันของขั้วแม่เหล็กโลก, และก็เพื่อให้ความช่วยเหลือในการพัฒนาความสามารถทาง DNA ของมนุษย์จาก 2 สาย DNA กลายเป็น 12 สาย DNA , อีกทั้งเพื่อช่วยเหลือในการวิวัฒนาการทางจิตวิญญาณของมนุษยชาติ เพื่อให้พร้อมต่อการเลื่อนระดับทางมิติไปพร้อมกับโลกที่จะกลายเป็นโลกมิติที่ห้า ในสิ้นปี 2017.
ผมจะแปลเฉพาะเรื่องที่พูดถึง การเปลี่ยนแปลงของโลกที่เกิดจาก การกลับขั้วกันของแกนแม่เหล็กโลกนะครับ ซึ่งถ้าใครได้เคยค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของ MPR (Magnetic Pole Reversal) หรือแกนแม่เหล็กโลกกลับหัวกลับหางมาก่อน ก็คงได้พบข้อมูลที่หลากหลาย และไม่เหมือนกัน บ้างก็ว่าอีกนาน เพราะมันค่อยๆกลับ, บ้างก็ว่าไม่เกิดขึ้น, บ้างก็ว่าเกิดไปแล้ว. อะครับ.. เรามาดูข้อมูลจากแหล่งนี้ที่เกี่ยวข้องกับการเลื่อนระดับทางมิติของโลกที่จะกลายเป็นมิติที่ห้า, ว่ามันจะเกี่ยวกับการกลับตัวของแกนแม่เหล็กโลกอย่างไรนะครับ.
Tuesday, January 19, 2016
รักตัวเอง กับ เห็นแก่ตัว ต่างกันอย่างไร..
ถ้าคุณรู้สึกว่า คำว่า รักตัวเอง มันกว้างเหลือเกิน แถมยังทำให้เราเผลอทำอะไรที่เห็นแก่ตัวอีกต่างหาก .. เพราะคำว่ารักตัวเอง แต่ละคนก็แปลความหมายของมันออกมาไม่เหมือนกัน บางคนรักคนอื่นมากกว่าตัวเอง เพราะเค้าก็ถือว่านั่นคือการทำตามหัวใจตัวเอง ก็คือรักตัวเองเหมือนกัน, บางคนรักตัวเองมากกว่าคนอื่น เค้าก็บอกว่าก็เลือกที่จะรักตัวเองมากกว่า มันก็สิทธิ์ของเค้าเหมือนกันแล่ะ. คราวนี้ลองมาดูความคิดเห็นของผมเกี่ยวกับคำว่า รักตัวเอง ยังไงให้มีประโยชน์ต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกและจิตวิญญาณของคุณที่กำลังเข้าสู่มิติที่ห้ากันครับ..
รักตัวเองให้ได้ประโยชน์ ไม่ต้องไปดูว่า คุณรักตัวเองมากกว่าคนอื่น หรือคุณรักคนอื่นมากกว่าตัวเองครับ แต่ให้ดูว่า คุณรู้สึกถึงพลังงานความรักของตัวคุณเองหรือยัง (ความรักนะครับ ไม่ใช่ความหลง และไม่ใช่ความใคร่) ผมคงไม่บังอาจบอกว่าความรักคืออะไรนะครับ เพราะทุกคนก็รู้สึกกับมันต่างกันไป แต่อยากให้ลองสังเกตกับอะไรที่เป็นธรรมชาติดูครับ เพราะถ้าเราสังเกตความรู้สึกของความรักกับแฟนเรา หรือคนรักของเรา หรือลูกเรา หรือพ่อแม่เรา บางทีมันก็มีความรู้สึกอื่นปนๆกันอยู่กับความรักของเราน่ะครับ เช่น ความกตัญญูต่อพ่อแม่ของเรา ความหวงลูกของเรา ความหลงในแฟนของเรา คือมันจะเป็นความรู้สึกที่คละกันระหว่างความรักของเราและหน้าที่ของเราน่ะครับ
พลังงานของความรัก ถ้าให้ผมบอกตามความรู้สึกที่ผมเข้าใจนะ มันก็อยู่ตรงกลางระหว่าง ความสุขและความเสียสละ มันไม่ได้ถึงขนาดว่าจะต้องรู้สึกผิดถ้าไม่ได้ทำ และก็ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกถึงขนาดว่า ต้องทำให้ได้ ไม่งั้นตายแน่.. พลังงานความรักของคุณ ที่อยู่ในตัวคุณ มันก็คือเข็มทิศของคุณด้วย ที่มันจะรู้ได้ว่าจะช่วยให้คุณออกจากการดิ้นรนเอาชีวิตรอดในมิติที่ต่ำกว่าอย่างตอนนี้ เพื่อกลับไปสู่บ้านของคุณในมิติที่สูงกว่าได้อย่างไร, ไม่ใช่การฆ่าตัวตายด้วย เพราะการฆ่าตัวตายไม่ได้ช่วยให้คุณปลดระวางหนี้กรรมเก่าต่างๆทิ้งไปได้ มันยังคงติดตัวคุณไป แถมยังได้หนี้กรรมใหม่ที่คุณทำร้ายตัวเองอีกด้วย.
พลังงานความรักของคุณ คือ สัญชาติญาณที่คุณจะรู้ได้ว่าอะไรดีที่สุด ณ ขณะนั้น ที่คุณจะทำได้ เพื่อเป็นประโยชต์ต่อการปลดปล่อยตัวคุณเองและแม้กระทั่งคนที่อยู่ล้อมรอบตัวคุณออกจากพันธะทั้งหลาย, มันคือแรงสั่นสะเทือนที่อยู่ตรงกลางที่มีอิสรภาพ ระหว่างความปิติยินดีเมื่อเห็นตัวเอง หรือผู้อื่นมีความสุข และบางครั้งคุณก็เลือกที่จะเสียสละเพื่อปลดเปลื้องความตระหนี่ขี้เหนียวหรือยึดติดในอะไรก็ตามที่คุณมีทิ้งไปได้ด้วย. เพราะสุดท้ายแล้ว เมื่อถึงวันที่ระบบการเงินของโลกเปลี่ยน ทุกคนจะไม่ต้องต่อสู่เพื่อแย่งชิงให้ได้อยู่รอดกันขนาดนี้ เพราะมนุษยชาติไม่ได้มาเกิดที่โลกเพียงเพื่อหาเงินและใช้เงินหาความสุขและตายแล้วเกิดอีกอยู่แค่นี้ ไม่ใช่เลย มนุษยชาติมาเกิดที่โลกนี้เพื่อมีหน้าที่ที่จะมีความสุข เพื่อที่แรงสั่นสะเทือนของความรักในตัวคุณทุกคน มันจะสามารถช่วยโลกใบนี้ให้ได้เลื่อนระดับเข้าสู่มิติที่สูงกว่า. แต่ในเมื่อมนุษย์ก็ยั้งติดอยู่ในการดิ้นรนว่าวันนี้จะกินอะไร พรุ่งนี้จะมีอะไรกิน เจ็บป่วยจะแก้ยังไง ต้องหาเงินจ่ายค่าต่างๆจิปาถะ มีแต่เรื่องต้องคอยระวังต่างๆนาๆ.. ความเครียดทั้งหลายนี้แล่ะครับ ที่ทำให้เราไม่สามารถดำรงอารมณ์ความรู้สึกของเราให้อยู่ในสภาพวะของพลังงานความรักของเราไปตลอดเวลา เพราะต้องคอยคิดแก้ไขปัญหาต่างๆในชีวิตทุกวัน.
ความรักของคุณ จะนำทางให้คุณก้าวพ้นอุปสรรคทั้งหลาย
หากคุณกำลังเริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงทางความรู้สึกของคุณ ที่เคยมีต่อตัวคุณ และสิ่งต่างๆที่คุณเคยตีค่ามันไว้อย่างที่คุณคิดว่าเป็นเช่นนั้น, แต่ ณ วันเวลาตอนนี้ ที่แรงสั่นสะเทือนของโลกและของคุณกำลังเชื่อมโยงกับมิติที่สูงกว่า (จิตวิญญาณของเราคือ พลังงานที่มีแรงสั่นสะเทือน หรือจะเรียกว่า ความถี่ของพลังงานก็ได้) จนทำให้คุณรู้สึกว่า คุณกำลังมีคุณอีกคนโผล่ออกมาในความรู้สึกของคุณ ซึ่งคุณคนนี้ ตีค่าทุกอย่างไม่เหมือนคุณคนเดิม.
เช่น คุณเริ่มไม่หลงในวัตถุนิยม, คุณเริ่มรู้สึกว่าตอนมีเงินอิ่มท้องกว่าตอนไม่มีเงิน แต่ตอนไม่มีเงินมีความสุขกว่าตอนมีเงิน, คุณเริ่มไม่สนใจเรื่องรสนิยมการแต่งตัว, คุณเริ่มรู้สึกว่าอยู่คนเดียวก็ไม่เหงาเท่าไหร่, คุณเริ่มรู้สึกว่าเวลาที่เดินเป็นเส้นตรงไม่มีแล้ว เหมือนเวลามันอยู่กับที่ ณ เวลาปัจจุบันขณะนั้นไปเรื่อยๆ จนคุณไม่ค่อยดูนาฬิกาว่ากี่โมงแล้วด้วยซ้ำ, คุณเริ่มไม่หลงในกามอารมณ์ ถ้าเผลอหลงก็รู้ตัวว่ากำลังหลง ไม่ใช่ไม่รู้ตัวเหมือนแต่ก่อน, คุณเริ่มรู้สึกอยากมีชีวิตง่ายๆ ไม่ต้องปวดหัว เพราะสิ่งที่คุณเคยต้องพยายามไขว่คว้าทั้งหลายนั้น คุณไม่ต้องการแล้วตอนนี้.
ยกตัวอย่างที่โลกของเรา การที่โลกกำลังแปรเปลี่ยนกลับคืนสู่มิติที่ห้าได้ ก็เพราะโลกทางกายภาพได้เชื่อมโยงกับจิตวิญญาณของโลกที่อยู่ในมิติที่ห้าได้แล้ว ทำให้ลักษณะกายภาพต่างๆของโลกกำลังหลวมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันกับจิตวิญญาณของโลกที่ได้อยู่ในมิติที่ห้าอยู่แล้วตอนนี้.
สิ่งมีชีวิตทั้งหลายที่อยู่กับโลกใบนี้ ก็เลยพลอยได้ประโยชน์ไปด้วย ซึ่งก็คือมนุษยชาติด้วย, จึงทำให้เกิดการเคลียร์ชำระและทำความสะอาดกรรมส่วนตัวของแต่ละบุคคลอย่างรวดเร็ว เพราะจิตวิญญาณที่แท้จริงของแต่ละคนกำลังตื่นขึ้นมาแล้ว ซึ่งก็คือตัวตนแห่งความรักที่อยู่ในมิติที่ห้าขึ้นไป (ในจักรวาล ตั้งแต่มิติที่ห้าขึ้นไป จะมีแต่แรงสั่นสะเทือนของพลังงานแห่งความรัก ของแต่ละจิตวิญญาณ) (งง อีกแล้วสิเนาะ) ก็คือเพราะ ถ้าเราจะกลับคืนสู่ตัวตนที่สูงกว่าของเรา เราจะหอบเอาแรงสั่นสะเทือนต่ำทั้งหลายไปด้วยไม่ได้ครับ
Monday, January 18, 2016
โลกยุคทอง โลกมิติที่ห้า Nova Earth หมายถึง? Part 2
ดูคลิปการเคลื่อนที่ของระบบสุริยะของเราอีกทีให้เข้าใจลักษณะของการโคจรของดวงอาทิตย์ของเรานะครับ ว่าดวงอาทิตย์ของเราโคจรรอบกาแล็กซี่ทางช้างเผือกอย่างไร
ทีนี้ ผมจะอธิบายให้เห็นภาพชัดๆเข้าไปอีกนะ ดูรูปกาแล็กซี่ทางช้างเผือกข้างล่างนี้ และตำแหน่งของระบบสุริยะของเรานะครับ
ทีนี้.. ดูรูปข้างบนนี้ต่อนะครับ ช่วงความกว้างระนาบของกาแล็กซี่ทางช้างเผือก ที่เรากำลังเข้ามาแล้วนะ (เข้ามาตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค. 2012 ที่ปฏิธินมายาสิ้นสุดเมื่อ 21 ธ.ค. 2012 นั่นแล่ะครับ) ช่วงความกว้างของระนาบคือ 2,000 ปี และนี่แล่ะ เราเข้ามาได้สามปีแล้วนะครับ ปี 2016 นี่คือปีที่สุดแล้วที่เราอยู่ในระนาบแห่งแสงสว่างของกาแล็กซี่ทางช้างเผือก. ซึ่งความอัศจรรย์ของอะไรๆที่มันไม่เคยเป็นไปได้ ตอนที่อยู่ในความมืดนอกระนาบของกาแล็กซี่ ถึง 11,000 ปี ที่ผ่านมา มันก็กำลังจะกลับเป็นไปได้ เพราะได้เข้ามาสู่โฟตรอนเบล หรือระนาบของกาแล็กซี่ทางช้างเผือกอีกครั้งแล้ว. ซึ่งโลกของเรา หรือ ไกอา เธอกำลังฟื้นคืนร่างกายของเธอ ซึ่งก็คือโลกทางกายภาพที่เราเห็นกันอยู่นี้ ที่กำลังจะตายเพราะการถูกทำลายด้วยสารเคมีจากโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งจากสงครามที่ใช้ระเบิดนิวเคลียร์ ทั้งการปล่อยแก๊สทำลายอากาศ ทำให้อากาศเป็นพิศ ทั้งการขุดเจาะลงไปใต้โลก เพื่อดูดใช้แร่ธาตุต่างๆ, อะไรหลายๆอย่างที่มนุษย์เคยเบียดเบียนโลกใบนี้มานั่นแล่ะครับ จนทำให้โลกกำลังจะตาย.
แต่.. ไกอา ตอนนี้เธอได้รับความช่วยเหลือ ทั้งจากการถึงเวลาได้โคจรเข้าสู่ระนาบเดียวกับแสงสว่างของกาแล็กซี่ทางช้างเผือก และจากการช่วยเหลือจากสหพันธ์กาแล็กติก จากดวงดาวอื่น และจากมิติที่สูงกว่าอื่นๆด้วย ล้วนแล้วมาเพื่อช่วยเหลือโลกของเรา ให้เธอได้ฟื้นคืนสภาพจากที่กำลังจะตาย ในมิติที่สาม ให้ได้กลับคืนสู่มิติที่ห้า ในแบบที่เธอเคยเป็นเมื่อ 11,000 ปีที่แล้ว (เอาล่ะ ถึงตรงนี้ หลายคนคงคิดว่าผมบ้า หรือ บางคนนึกภาพออก และเข้าใจด้วยสัญชาตญาณในตัวคุณที่กำลังจะตื่นขึ้นมาจากการหลับไหล .. ก็ขอให้ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมกันต่อเองนะครับถ้าต้องการข้อมูลแบบเป๊ะๆ เพราะ.. ผมจะเน้นแค่ เรื่องการเปลี่ยนแปลงของโลก และจิตวิญญาตของสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนโลก ซึ่งก็คือ มนุษยชาติด้วยเช่นกันนะครับ)
Labels:
การเปลี่ยนยุคของโลก,
เข้าสู่ยุคทอง,
ช่วงกลียุคของโลก
โลกยุคทอง โลกมิติที่ห้า Nova Earth หมายถึง? Part 1
โลกใบนี้ที่เราทุกคนบนโลกอาศัยอยู่นี้นะครับ มันกำลังเปลี่ยนแปลงตัวมันเองทางกายภาพเพื่อให้สอดคล้องกับจิตวิญญาณที่แท้จริงของโลก
อย่าพึ่ง งง นะครับ... ผมจะค่อยๆอธิบายให้ฟังด้วยความเข้าใจที่ผมก็อ่านมาจากเว็บนอกทั้งหลายที่คุณเองก็สามารถหาข้อมูลได้ในกูเกิ้ลด้วยตัวเอง เพียงแต่ส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษ เพราะงั้นผมจึงจะเล่าให้ฟังสำหรับผู้ที่อยากรู้ข้อมูลคร่าวๆก่อน แล้วจึงค่อยไปหาข้อมูลเพิ่มเต็มต่อเองนะครับ
จิตวิญญาณของเราสามารถเลื่อนระดับได้นะ จากสามไปสี่ จากสี่ไปห้า จากห้าไปหก เจ็ด แปด ก็ว่ากันไปอะนะครับ.. แต่ตอนนี้ผมจะเน้นตรงการเลื่อนระดับไปที่มิติที่ห้าของโลกเรานี่แล่ะครับ.
เอาล่ะ ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่จะไปหาข้อมูลเพิ่มเองละกันนะครับ.. คือว่า จิตวิญญาณของโลกเราอยู่ในมิติที่ห้าอยู่แล้ว และเดิมที กายภาพของโลกเราก็เคยเป็นกายภาพแบบของมิติที่ห้า หก เจ็ด แต่ไกอา เธอได้ลดระดับของกายภาพของเธอให้เป็นมิติที่สาม เมื่อนานมาแล้วล่ะ (ไม่อยากจะเล่าแบบว่ากี่ปีที่แล้ว อะไรแบบเป๊ะๆ นะ จะพูดแค่ให้เข้าใจได้คร่าวๆนะครับ)
แต่ตั้งแต่ สิ้นปี 2012 ตามที่ปฏิทินของเผ่ามายา ที่ได้ระบุว่าวันที่ 21-22 ธันวาคม 2012 คือวันสิ้นสุดของปฏิธินของเผ่าเค้านั้น.. ก็คือว่า มันสิ้นสุดการที่ระบบสุริยะของเราอยู่ในช่วงความมืดนอกกาแล็กซี่ทางช้างเผือก, เพราะระบบสุริยะของเราได้เคลื่อนที่เข้าสู่ระนาบเดียวกันกับกาแล็คซี่ทางช้างเผือก ซึ่งก็คือ ได้เคลื่อนที่เข้าสู่ย่านแสงสว่างของกาแล็กซี่นั่นเองครับ (อ่า งง อีกรอบแล้วสิเนาะ) ไปดูคลิป การโคจรของดวงอาทิตย์นี้กันก่อนนะครับ แล้วคุณจะเข้าใจใหม่ว่า ดวงอาทิตย์ของเราไม่ได้อยู่นิ่งๆเพื่อรอให้โลก หรือดาวบริวารอื่นๆได้โคจรรอบดวงอาทิตย์แค่นั้นนะครับ เพราะ.. จริงๆแล้วดวงอาทิตย์เปรียบเหมือนเป็นดาวหางลูกไฟ ที่โคจรรอบๆจุดศูนย์กลางของกาแล๊กซี่ทางช้างเผือก โดยที่ดาวบริวารของดวงอาทิตย์รวมถึงโลกของเราก็โคจรรอบดวงอาทิตย์ไปในตัวด้วย. พูดๆง่ายคือ ระบบสุริยะของเราทั้งยวง ไม่เคยอยู่ตรงตำแหน่งเดิมซ้ำไปซ้ำมาในทางช้างเผือกนี้นะครับ เพราะมันโคจรไปเรื่อยๆเพื่อหมุนรอบจุดศูนย์กลางของกาแล็กซี่ทางช้างเผือกน่ะครับ.
Subscribe to:
Posts (Atom)